พาเที่ยวฝรั่งเศส 10 แลนด์มาร์คในฝันที่ใครพลาดก็เหมือนไปไม่ถึง
Bonjour! เริ่มต้นด้วยคำทักทายแบบนี้ หลาย ๆ คนน่าจะเดากันได้แล้วใช่ไหมว่าเรากำลังจะพาทุกคนวาร์ปไปที่ไหน แน่นอนว่าต้องเป็นดินแดนแห่งศิลปวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ ปรัชญา รวมไปถึงแฟชั่นสินค้าไฮเอนด์ต่าง ๆ อย่าง “ประเทศฝรั่งเศส” นั่นเอง นอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งอารยธรรมตะวันตก ประเทศฝรั่งเศสยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมและไวน์ ที่หอมฟุ้งคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกในแต่ละปี
ข้อดีอีกข้อที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของการเที่ยวฝรั่งเศสก็คือการเดินทางทั้งภายในเมืองและการข้ามระหว่างเมืองที่แสนสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถบัส รถไฟ รถชมเมือง หรือล่องเรือ เราก็สามารถใช้บริการได้ทั้งหมดเพียงถือบัตรโดยสาร Eurail France Pass เพียงใบเดียว ใครที่กำลังแพลนทริปเที่ยวฝรั่งเศส สามารถจองผ่าน KKday ได้ง่าย ๆ คลิกเลย
หากพร้อมแล้ว ตามไปเก็บ 10 ที่เที่ยวยอดนิยมของประเทศฝรั่งเศสที่ใครไม่ได้ไปถือว่าพลาดอย่างแรงกันเลยค่ะ
หอไอเฟล
หอไอเฟลเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปารีสและประเทศฝรั่งเศสที่มักจะปรากฏอยู่ตามสื่อต่าง ๆ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนเมืองน้ำหอมแห่งนี้ หอไอเฟลมีลักษณะเป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กความสูงรวมกว่า 300 เมตร นอกจากจะสามารถถ่ายภาพคู่กับหอไอเฟลจากด้านล่างแล้ว ด้านบนหอไอเฟลยังมีภัตตาคาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก จุดชมนิทรรศการและจุดชมวิวที่สามารถชมเมืองปารีสที่มีแม่น้ำแซนไหลผ่านได้แบบ 360 องศา พูดได้เต็มปากเลยว่าหากไม่ได้มาหอไอเฟล ก็เหมือนมาไม่ถึงฝรั่งเศส!
พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles)
พระราชวังแวร์ซายได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน และถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความหรูหรามั่งคั่งที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อาณาบริเวณของพระราชวังแวร์ซายครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารสิ่งปลูกสร้างอันโอ่อ่าหรูหราและสวนอุทยานขนาดใหญ่ ตัวอาคารมีการออกแบบตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Baroque) และ โรโคโค (Rococo) มีการประดับตกแต่งอย่างอลังการด้วยงานประติมากรรมและงานศิลปะชั้นเอกของโลก รวมไปถึงโคมไฟระย้าเกือบทุกจุดของวัง
อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Cathédrale Notre-Dame de Paris)
อาสนวิหารน็อทร์-ดาม หรือ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารเก่าแก่อายุกว่าหลายร้อยปีที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยรูปแบบการก่อสร้างแบบโกธิค ประดับประดาตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสีและผ่านการเรียงร้อยเรื่องราวทางศาสนาและวัฒนธรรมเอาไว้ในงานประติมากรรมแกะสลักที่วิจิตรบรรจงอ่อนช้อยในทุกรายละเอียด มหาวิหารน็อทร์-ดามจึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์คู่เมืองฝรั่งเศสที่ทรงคุณค่าทั้งในแง่ความงดงามทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ ศาสนาและวัฒนธรรม
วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล (Mont Saint-Michel)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกของฝรั่งเศสที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงคือ “วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล” วิหารที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะกลางทะเลในแคว้นนอร์มังดี ความงดงามเลื่องชื่อของสถาปัตยกรรมยุคกลางผสานเข้ากับบรรยากาศของเกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเล ทำให้ภาพของวิหารบนเกาะกลางน้ำแห่งนี้ยิ่งสวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยาย และที่สำคัญวิหารมงต์ แซงต์ มิเชล ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตก (Wonder of the Western World) อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของหลาย ๆ คนที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และเป็นจุดหมายในฝันของคนรักศิลปะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะชั้นยอดของโลกและวัตถุโบราณจากหลายยุคสมัยรวมนับหมื่นชิ้น! คนที่รักการเสพงานศิลป์จริง ๆ เดินชมวันเดียวอาจไม่พอด้วยซ้ำ ดังนั้นไฮไลต์ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นสายอาร์ตหรือไม่ก็ตามควรจะต้องเดินตามหาก่อนเลยคือผลงานมาสเตอร์พีซขึ้นหิ้งอย่างภาพวาดโมนาลิซา (Mona Lisa) ของศิลปินเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci), รูปปั้นวีนัส (Vénus de Milo), ภาพวาด Liberty Leading the People ของศิลปิน Eugène Delacroix, ภาพวาด The Raft of the Medusa ของศิลปิน Théodore Géricault และประติมากรรมรูปปั้นหัวขาด Winged Victory of Samothrace เป็นต้น
นอกเหนือจากผลงานศิลปะล้ำค่าด้านในอาคาร อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของพิพิธภัณฑ์เก่าแก่แห่งนี้คือพีระมิดแก้วขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าหลักสู่อาคารด้านใน เรายังแอบเห็นหลาย ๆ คนที่มีเวลาเที่ยวจำกัดหรือไม่ได้อินกับงานศิลปะเท่าไหร่นัก ก็มักจะแวะมาถ่ายรูปกับพีระมิดแก้วมุมนี้พร้อมกับเช็คอินว่าถึงลูฟวร์แล้วอยู่เหมือนกัน
ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées)
สวรรค์ของนักช็อป โดยเฉพาะบรรดาสินค้าพรีเมียมแบรนด์เนม ไลฟ์สไตล์หรูหราต้องยกให้ถนนฌ็องเซลิเซ่เลยล่ะค่ะ ถนนความยาวเกือบ 2 กิโลเมตรเส้นนี้ที่ถูกรายล้อมไว้ด้วยต้นเกาลัดที่ถูกปลูกเอาไว้อย่างสวยงาม เป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยโรงละคร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านรวงและศูนย์การค้าสุดหรูหรา อาคารส่วนใหญ่บนถนนเส้นนี้ถูกก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะ Art Deco และ Art Nouveau เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
ประตูชัยฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือจัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l’Étoile) สร้างโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์ชัยชนะจากการรบในสงครามนโปเลียนและเป็นที่บันทึกหน้าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อย่างการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส รายชื่อเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ร่วมรบในสงครามและปกป้องประเทศ รวมถึงศพทหารนิรนามจากสงครามโลกครั้งที่ 1
ดิสนีย์แลนด์ปารีส (Disneyland Paris)
ออกผจญภัยและร่วมสนุกไปกับตัวละครตัวโปรดจากดิสนีย์ที่สวนสนุกและศูนย์รวมความบันเทิงดิสนีย์แลนด์ปารีส หนึ่งเดียวในยุโรปที่จะพาทุกคนย้อนวัยหลุดเข้าไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ ภายในดิสนีย์แลนด์ปารีส แบ่งออกเป็นโซนสวนสนุกแบบธีมพาร์ค Disneyland Park และ Walt Disney Studios Park นอกจากนี้ยังมี Disney Resort อีกหลายแห่งด้านใน ทุกวันนี้สวนสนุก Disneyland Paris ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสวนสนุกที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในบรรดาสวนสนุกทั้งหมดของยุโรปอีกด้วย แล้วอย่างนี้สาวกดิสนีย์จะพลาดได้ยังไงกันล่ะ
เมืองนีซ (Nice)
เดินทางลงมาทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จะพบกับเมืองสวรรค์แห่งการพักผ่อนริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเมืองนีซ (Nice) ที่ตั้งอยู่ใน French Riviera แม้จะไม่ได้เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสักเท่าไหร่ แต่เมืองนีซนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของชาวฝรั่งเศสและชาวยุโรปจากประเทศอื่น ๆ เลยก็ว่าได้
เมื่อมาถึงเมืองนีซ เราจะได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากปารีส ทั้งภาพผู้คนแต่งตัวสุดชิลเดินขวักไขว่อยู่ริมชายหาด บ้างก็นอนอาบแดด หรือขี่จักรยาน นั่งรถรางชมรอบเมือง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว สถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ จัตุรัสใจกลางเมือง พิพิธภัณฑ์ และตลาดนัดให้ได้ออกสำรวจ
และหากใครพอมีเวลาเหลือสักหนึ่งวันยังสามารถนั่งรถไฟไปเช้า-เย็นกลับข้ามไปชมสถาปัตยกรรมและสัมผัสความหรูหราที่ประเทศโมนาโก (Monaco) ประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐี ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าตั๋วรถไฟหลักร้อยต้น ๆ เท่านั้นเอง
เมืองกอลมาร์ (Colmar)
ข้ามมายังแคว้นอาลซัส (Alsace) จะมีเมืองท่องเที่ยวบรรยากาศสวยงามราวเทพนิยายตั้งอยู่ท่ามกลางไร่องุ่นที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนแวะมาเยือน นั่นก็คือเมืองกอลมาร์ เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่หลาย ๆ เสียงเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้กับฉากในการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง Beauty and the Beast จุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือทั่วเมืองมีลำคลองไหลผ่าน ขนาบไปด้วยอาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิกริมสองฝั่ง ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้รับฉายา “ลิตเติ้ลเวนิสแห่งฝรั่งเศส” ไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย