ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวธรรมชาติสุดอลังการและอาหารเลิศรสที่ครองใจคนทั่วโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งการไปเที่ยวในสถานที่ยอดฮิตก็อาจจะหมดสนุกได้ง่ายๆ หากแต่ละสถานที่แน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ถ้าใครชอบที่เที่ยวสงบๆ ไม่วุ่นวาย และกำลังมองหาพิกัดที่จะได้ใช้เวลาแบบชิลล์ๆล่ะก็ เราขอแนะนำเมือง “โนเบโอกะ” ( Nobeoka ) เมืองซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว!
เมืองโนเบโอกะตั้งอยู่ในจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) เมืองแห่งนี้มีทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมให้ได้เรียนรู้ และธรรมชาติที่สวยแบบไม่ต้องปรุงแต่ง ที่สำคัญโนเบโอกะยังอยู่ไม่ไกลจาก “หุบเขาทาคาชิโฮ” (Takachiho Gorge) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติสุดฮิตอีกด้วย

สำหรับใครที่อยากมาพักผ่อนฮีลใจ… ขอบอกเลยว่าบทความนี้ตอบโจทย์คุณมากค่ะ เพราะ KKday ได้รวบรวมทุกเรื่องน่ารู้ของเมืองโนเบโอกะมาฝากกัน ตั้งแต่เรื่องการเดินทาง ที่เที่ยวสุดปัง และที่พักแสนสะดวกสบาย รับรองได้เลยว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณวางแผนทริปได้ง่ายขึ้นค่ะ!
1. เมืองโนเบโอกะ ( Nobeoka ) ตั้งอยู่ที่ไหน?

โนเบโอกะ ( Nobeoka ) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) บนเกาะคิวชูฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เมืองแห่งนี้รายล้อมด้วยภูเขาและแม่น้ำ แถมยังได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแสงแดดอุ่นๆเกือบตลอดทั้งปี ชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนเคยเรียกที่นี่ว่า “Hyuga no Kuni” หรือ “ดินแดนแห่งแสงอาทิตย์” เนื่องจากมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยป่าไม้ที่เขียวขจี รวมทั้งมีพื้นที่ให้ชาวเมืองประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำการประมงมาจวบจนปัจจุบัน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองโนเบโอกะก็คือ หุบเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge) พิกัดที่คนญี่ปุ่นชอบไปเล่นน้ำผ่อนคลายในช่วงหน้าร้อน ทำให้โนเบโอกะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาอายุแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือการพายเรือแคนูไปตามสายน้ำเย็นๆที่ใสแจ๋วจนดูคล้ายกับเรือลอยอยู่จริงๆ ขอบอกเลยว่าฟีลดีสุดๆค่ะ!
คุณสามารถเดินทางไปจังหวัดมิยาซากิได้อย่างสะดวกราบรื่น เพียงเลือกใช้บัตรรถไฟที่เหมาะสำหรับความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่งก็คือ JR Kyushu Rail Passs ที่มีให้เลือกทั้งประเภท All Kyushu Pass หรือ Southern Kyushu Pass สามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์ม KKday ได้แล้ววันนี้!
2. วิธีเดินทางไปโนเบโอกะ ( Nobeoka )
ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นเดินทางจากเมืองใหญ่เมืองไหน ก็มีหลายวิธีที่สามารถเดินทางไปยังเมืองโนเบโอกะได้ง่ายๆ เราได้รวบรวมตัวเลือกยอดฮิตมาให้แล้วค่ะ!
เดินทางจากฟุกุโอกะ (Fukuoka)
✈️ ถ้าเลือกนั่งเครื่องบินภายในประเทศ จะใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปสนามบินมิยาซากิประมาณ 40 นาที
🚄 หากนั่งรถไฟ JR จากสถานีฮากาตะ (Hakata) โดยรวมเวลาเปลี่ยนสายแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
เดินทางจากโตเกียว (Tokyo)
✈️ บินจากสนามบินฮาเนดะไปสนามบินมิยาซากิ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที
🚄 จากนั้นให้ต่อรถไฟด่วนพิเศษของ JR ไปสถานีโนเบโอกะ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
เดินทางจากคุมาโมโตะ (Kumamoto)
🚗 วิธีเดินทางจากคุมาโมโตะไปโนเบโอกะที่สะดวกที่สุดคือการขับรถ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
🚌 ถ้าใช้ขนส่งสาธารณะ จะมีรถบัสทางด่วน (highway bus) ที่วิ่งให้บริการวันละ 1 รอบ โดยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง
📍ถ้าแพลนจะแวะเที่ยว “หุบเขาทาคาชิโฮ” ก่อน สามารถนั่งรถบัสจากคุมาโมโตะตรงไปที่หุบเขาทาคาชิโฮได้เลย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นให้ต่อรถบัสจากหุบเขาทาคาชิโฮไปโนเบโอกะอีกราว 1 ชั่วโมง 30 นาที
เดินทางจากตัวเมืองมิยาซากิ (Miyazaki City)
🚗 หากขับรถยนต์จากมิยาซากิไปโนเบโอกะ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
🚄 อีกวิธีหนึ่งคือการนั่งรถไฟด่วนพิเศษของ JR จากสถานีมิยาซากิไปสถานีโนเบโอกะ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ
เดินทางจากฟุกุโอกะ (เส้นทางอื่น)
🚗 หากขับรถยนต์จากฟุกุโอกะไปโนเบโอกะ จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที
✈️ หากนั่งเครื่องบินจากสนามบินฟุกุโอกะไปยังสนามบินมิยาซากิ จะใช้เวลาประมาณ 40–45 นาที
🚄 เมื่อถึงสนามบินมิยาซากิแล้ว ให้ต่อรถไฟด่วนพิเศษไปที่โนเบโอกะโดยใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ
3. วิธีเดินทางไป “หุบเขาทาคาชิโฮ” ( Takachiho Gorge ) จากเมือง “โนเบโอกะ” ( Nobeoka )

คุณสามารถเดินทางจากโนเบโอกะไปหุบเขาทาคาชิโฮได้ง่ายๆ ด้วยการขึ้น รถบัส Miyazaki Kotsu จากเมืองโนเบโอกะ โดยเลือกเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังหุบเขาทาคาชิโฮ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เราขอแนะนำให้จองตั๋วไว้ล่วงหน้า เนื่องจากรอบรถมีค่อนข้างจำกัด และในช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้บริการ
แต่หากอยากเดินทางอย่างยืดหยุ่นอีกสักหน่อยสำหรับทริปนี้ เราขอแนะนำให้ ขับรถยนต์ไป ประมาณ 50 นาที โดยขับไปตามทางด่วน Kyushu Chuo Expressway แล้วต่อด้วยถนนสาย 218 เพียงสังเกตป้ายบอกทางพร้อมกับเปิด Google Map ไปด้วย ก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้ไม่ยากค่ะ
4. สัมผัสเสน่ห์น่าหลงรักของ “หุบเขาทาคาชิโฮ” ( Takachiho Gorge )

ความสวยงามที่น่าค้นหาของ หุบเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge) เกิดจากลาวาที่ไหลจากภูเขาไฟอะโสะ (Mt. Aso) แล้วเย็นตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเจอกับแม่น้ำโกคาเสะ (Gokase River) ทำให้เกิดผาหินบะซอลต์รูปร่างสวยงามแปลกตาที่เรียงกันเป็นเส้นตรงราวกับมีใครตั้งใจแกะสลักเอาไว้ พิกัดแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องเล่าตามตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นอีกมากมาย
ตามตำนานเชื่อกันว่าถ้ำที่อยู่ใกล้กับ ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ (Amano-Iwato Shrine) นั้นเป็นสถานที่ที่สุริยเทพีแห่งญี่ปุ่นหรือ อามาเทราสึ (Amaterasu) เคยหลบซ่อนตัวอยู่ จนทำให้โลกตกอยู่ในความมืดมิด และจวบจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีการแสดง “คางุระ” ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อรำลึกถึงตำนานนี้และขอพรเทพเจ้าทรงบันดาลให้พืชผลอุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้ บริเวณใกล้กับหุบเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge) ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ (Amano-Iwato Shrine), ศาลเจ้าทาคาชิโฮ (Takachiho Shrine) และ จุดชมวิวคุนิมิกะโอกะ (Kunimigaoka Viewpoint) แต่ละสถานที่ล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกันไปตามฤดูกาลต่างๆ ทั้งฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระผลิบาน, ฤดูร้อนที่ป่าไม้เป็นสีเขียวขจี, ฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม และฤดูหนาวที่หิมะตกอย่างเงียบสงบ แม้ว่าการเดินทางจะค่อนข้างยาวไกล แต่การผสมผสานการท่องเที่ยวหุบเขาทาคาชิโฮและการพักผ่อนในเมืองโนเบโอกะเข้าด้วยกันก็ช่วยให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการผจญภัยทั้งใบบรรยากาศภูเขาและชายทะเลได้อีกด้วย!
เปิดประสบการณ์ทัวร์ภูมิภาคคิวชู 1 วันเต็ม ตะลุยเช็กอินพิกัดแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาด โดยเริ่มตั้งแต่หุบเขาทาคาชิโฮ, ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ, บ่อน้ำพุร้อนชิรากาวะ, ถ้ำอามาโนะยาสุกาวาระ และอื่นๆอีกมากมาย เริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัดมิยาซากิด้วยรถยนต์ส่วนตัว จัดกลุ่มทัวร์ขนาดเล็ก มีไกด์ดูแลอย่างทั่วถึง จองทริป 1 วันไปเที่ยวภูมิภาคคิวชูกับ KKday ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย
5. ควรไปเที่ยวหุบเขาทาคาชิโฮ ( Takachiho Gorge ) ช่วงไหนดี?

คุณสามารถเที่ยวหุบเขาทาคาชิโฮได้ทุกฤดูเลยค่ะ เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าจะให้เลือกช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ฤดูใบไม้ผลิ & ฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากคุณจะได้เห็นทั้งทิวทัศน์ดอกซากุระผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ และได้เห็นใบเมเปิลแดงสวยๆในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะเปลี่ยนบรรยากาศของหุบเขาแห่งนี้ให้โรแมนติกสุดๆไปเลยค่ะ
ความสวยงามของ “หุบเขาทาคาชิโฮ” ในแต่ละฤดูกาล
-
ฤดูใบไม้ผลิ : ดอกซากุระบาน
-
ฤดูร้อน : ป่าไม้เขียวชอุ่ม
-
ฤดูใบไม้ร่วง : ใบไม้เปลี่ยนสี
-
ฤดูหนาว : เงียบสงบและโรแมนติกที่สุด
แต่ขอบอกก่อนว่า… ช่วงพีคๆจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเยอะมาก เราจึงแนะนำว่า ควรวางแผนล่วงหน้า ทั้งการเดินทางและการจองที่พัก ทุกคนจะได้ไม่พลาดทุกความฟินของสถานที่แห่งนี้ค่ะ!
เพลิดเพลินไปกับ One Day Trip ที่หุบเขาทาคาชิโฮ ค้นพบความงดงามทางธรรมชาติที่จะฮีลใจคุณ หลังจากนั้นไปเที่ยวกันต่อที่ภูเขาไฟอะโสะ พร้อมจุดแวะเช็กอินที่ไม่ควรพลาดและมื้ออาหารกลางวัน ทริปนี้เป็นทริปส่วนตัวที่มีไกด์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดทั้งทริป คุณสามารถจัดทัวร์กลุ่มเล็กๆกับเพื่อนและครอบครัวได้เลยค่ะ เพียงจองทัวร์เที่ยวหุบเขาทาคาชิโฮล่วงหน้าผ่าน KKday
6. ที่เที่ยวห้ามพลาดในบริเวณหุบเขาทาคาชิโฮ ( Takachiho Gorge )
6.1 น้ำตกมานาอิ ( Manai Falls )

น้ำตกมานาอินับเป็นไฮไลต์เด็ดของหุบเขาทาคาชิโฮเลยก็ว่าได้! เราจะได้ชมน้ำตกสูง 17 เมตรที่ไหลจากหน้าผาหินลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง เรียกได้ว่าบรรยากาศอลังการมาก หากใครอยากชมน้ำตกใกล้ๆก็สามารถพายเรือไปชมวิวได้ค่ะ หรือถ้าอยากเดินเล่นสบายๆก็มีทางเดินด้านบนให้ชมวิวมุมสูงของน้ำตกด้วยนะคะ แถมในตอนกลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพประดับน้ำตก เพิ่มความโรแมนติกเหมือนอยู่ในฉากแฟนตาซีเลยล่ะ!
6.2 ศาลเจ้าทาคาชิโฮ ( Takachiho Shrine )

ตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น ว่ากันว่าศาลเจ้าทาคาชิโฮมีอายุมากกว่า 1,900 ปี ที่นี่เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าย่อยกว่า 88 แห่งในพื้นที่แห่งนี้ ภายในศาลเจ้าเป็นสถานที่ประดิษฐานของเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่นหลายองค์ นอกจากนี้ศาลเจ้าทาคาชิโฮยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีไฮไลต์ที่ห้ามพลาดดังนี้
-
ต้นสนจิจิบุ (Chichibu Cedar) ที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 800 ปี
-
ต้นสนคู่รัก (Married Couple Cedars) ต้นสนสองต้นที่มีโคนต้นเชื่อมติดกัน เชื่อกันว่าถ้าเดินวนรอบต้นไม้ 3 รอบจะช่วยให้ครอบครัวสงบสุขและสมหวังในความรัก
6.3 ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ & ถ้ำอามาโนะยาสุกาวาระ ( Amano-Iwato Shrine & Amano Yasugawara Cave )

ตามตำนานปรัมปราญี่ปุ่นเชื่อว่า อามาเทราสึ องค์สุริยเทพีแห่งญี่ปุ่น เคยหลบซ่อนอยู่ในถ้ำใกล้ๆกับศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ หลังจากโกรธน้องชาย ซูซาโนะโอะ เทพเจ้าแห่งลมพายุ การหลบในถ้ำของอามาเทราสึจึงทำให้โลกตกอยู่ในความมืดมิด เหล่าเทพเจ้าจึงต้องช่วยกันหาทางให้องค์สุริยเทพีออกมาจากถ้ำ สถานที่ที่เหล่าเทพเจ้านัดพบเพื่อหารือกันก็คือ ถ้ำอามาโนะยาสุกาวาระ เมื่อเข้าไปในถ้ำแห่งนี้เราจะพบหินขอพรที่เรียงซ้อนกันนับพันก้อน หากใครได้เข้ามาสัมผัสจะพบว่าบรรยากาศที่นี่เงียบสงบและมีมนตร์ขลังมาก ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเทพเจ้าเลยค่ะ
ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ณ หุบเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge) พร้อมสำรวจถิ่นกำเนิดความเชื่อเรื่องตำนานปรัมปราของญี่ปุ่น ณ ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ & ถ้ำอามาโนะยาสุกาวาระ พร้อมรับประทานอาหารกลางวันสไตล์มิยาซากิ สนุกและได้ความรู้ในทริปเดียว พิเศษ! จองผ่าน KKday รับข้อเสนอส่วนลด 20% จองได้เลยที่ลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ
6.4 สะพานทั้งสามแห่งของหุบเขาทาคาชิโฮ ( Takachiho Bridges )

บริเวณเหนือหุบเขาทาคาชิโฮจะมีสะพานโค้งเก่าแก่ 3 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นใน 3 ยุคสมัยที่แตกต่างกัน ถือเป็นจุดเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถชมพัฒนาการของสถาปัตยกรรมสะพาน 3 ยุคได้ภายในสถานที่เดียว ซึ่งนับว่าหาชมได้ยากมากๆ สะพานทั้งสามแห่งที่ว่านี้ได้แก่
-
สะพานชินบาชิ (Shinbashi) : เป็นสะพานที่ทำจากหิน สร้างขึ้นในยุคไทโช
-
สะพานทาคาชิโฮโอฮาชิ (Takachiho Ohashi) : เป็นสะพานที่ทำจากเหล็ก สร้างขึ้นในยุคโชวะ
-
สะพานชินโตทาคาชิโฮโอฮาชิ (Shinto Takachiho Ohashi) : เป็นสะพานที่ทำจากคอนกรีต สร้างขึ้นในยุคเฮเซ
7. สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใน “โนเบโอกะ” ( Nobeoka ) ที่คุณไม่ควรพลาด
7.1 สวนในบริเวณปราสาทโนเบโอกะ ( Nobeoka Castle Ruins Park )

“ปราสาทโนเบโอกะ” สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังบางส่วนของปราสาทเท่านั้น แต่กำแพงหินสูง 22 เมตรที่เรียกว่า Honmaru Ishigaki ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือเทคนิคการเรียงหินแบบพิเศษ ซึ่งว่ากันว่าหากดึงหินฐานล่างออกเพียงก้อนเดียว กำแพงหินทั้งแผงจะพังลงมาทันที! ทำให้ที่นี่ถูกขนานนามในอีกชื่อหนึ่งว่า “หินพันศพ” เพราะเชื่อกันว่าสามารถสังหารศัตรูได้เป็นพันคนในพริบตา หากคุณมีโอกาสเดินไปใกล้ๆซากปราสาท คุณจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของกำแพงหินแห่งนี้ แถมปราสาทโนเบโอกะยังเป็นพิกัดชมดอกซากุระสุดฮิตประจำเมืองด้วยค่ะ
7.2 แม่น้ำโกคาเสะ ( Gokase River )

แม่น้ำโกคาเสะเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านหุบเขาทาคาชิโฮไปยังทั่วทั้งเมืองโนเบโอกะ นำพาสายฝนและผลิตผลที่อุดมสมบูรณ์ไปสู่พื้นที่ทุกแห่งหนที่แม่น้ำไหลผ่าน อีกทั้งยังสร้างภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่งดงามและหลากหลาย แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำที่สำคัญมากสำหรับชาวเมืองโนเบโอกะ นอกจากความสวยงามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมทางน้ำต่างๆให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น การพายเรือแคนูในหุบเขาและล่องเรือไปตามแม่น้ำอย่างเงียบสงบ การเล่นซับบอร์ด กิจกรรมตกปลาอายุ (Ayu) ปลาเนื้อหวานที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ นอกจากนี้บริเวณแนวเขื่อนของแม่น้ำโกคาเสะยังมีดอกทานตะวันและดอกคาวาซุซากุระปลูกเรียงรายกันอย่างสวยงาม ในฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน ดอกไม้เหล่านี้จะบานสะพรั่งและมีสีสันสดใส สร้างวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนคุณไม่อาจลืมเลือน
7.3 จุดชมวิวภูเขาอาตาโกะ ( Mt. Atago Observatory )

ภูเขาอาตาโกะสูงประมาณ 251 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโนเบโอกะ ด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองแบบพาโนรามาได้เกือบ 360 องศา นอกจากนี้ภูเขาอาตาโกะยังติดอันดับ “มรดกแห่งทัศนียภาพยามค่ำคืนของญี่ปุ่น” อีกด้วย อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน “ร้อยจันทราแห่งแดนอาทิตย์อุทัย” เพราะในคืนพระจันทร์เต็มดวง เราจะมองเห็นแสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำทะเลราวกับถนนแห่งแสงจันทร์ โรแมนติกมากๆเลยล่ะค่ะ แถมยังมีเรื่องเล่าว่าเทพเจ้าญี่ปุ่นเคยพบรักและสมรสกันที่นี่ ที่ภูเขาอาตาโกะจึงมีอนุสรณ์สถานแห่งความรักตั้งอยู่บนยอดเขาด้วย ใครชวนคนรักมาเที่ยวด้วยกันก็อย่าลืมแวะมาที่นี่นะ!
7.4 อุทยานแห่งชาติชายฝั่งฮิวกะ ( Hyuga Kaigan Quasi-National Park )

เมืองฮิวกะตั้งอยู่ทางเหนือของจังหวัดมิยาซากิ จุดเด่นของเมืองนี้คือแหลมฮิวกะ (Cape Hyuga) ซึ่งอยู่ปลายสุดของแนวชายฝั่งอุทยานแห่งชาติ สถานที่แห่งนี้เกิดจากการที่ลาวาร้อนๆไหลมาปะทะกับน้ำทะเลเมื่อประมาณ 15 ล้านปีก่อน ทำให้เกิดแนวหน้าผาหินที่ดูแปลกตา จุดที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าผาที่ดูเหมือนสันหลังม้า ซึ่งมีความสูงถึง 70 เมตร กว้าง 10 เมตร และลึก 200 เมตร! รับรองว่าที่นี่วิวอลังการมาก แต่ลมจะค่อนข้างแรงหน่อย ใครไปก็ต้องระวังความปลอดภัยกันด้วยนะคะ
7.5 ภูเขาโอกุเอะ ( Mt. Okue / Dabengshan )

ภูมิภาคคิวชูมีภูเขามากมาย รวมถึงภูเขาไฟอย่างภูเขาอะโสะ และภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขียวขจี เช่น เทือกเขาคิวชู แต่ภูเขาโอกุเอะเป็นภูเขาหินแกรนิตที่โดดเด่นด้วยความสูง 1,643 เมตร เป็นหนึ่งในยอดเขาที่นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาท้าทายความสูง บนยอดเขามีทัศนียภาพที่งดงามมาก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ดอกอาซาเลียจะบานสะพรั่ง ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาจะเต็มไปด้วยใบเมเปิลสีแดงสดใส โดยมีวิวเบื้องล่างเป็นแม่น้ำชุคุชิกาวะ (Shukushigawa) ที่ไหลผ่านเชิงเขา แม่น้ำสายนี้ถือเป็นหนึ่งในหุบเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาคคิวชู
8. โรงแรมที่พักแนะนำในเมืองโนเบโอกะ ( Nobeoka )
1. Nobeoka Washington Hotel
โรงแรมระดับ 2 ดาวที่แม้จะเรียบง่าย แต่ก็สะอาดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากค่ะ แถมยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองโนเบโอกะ ทำให้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกสุดๆ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และคลินิก สำหรับใครที่ขับรถยนต์มาเองก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาที่จอดรถเลย เพราะโรงแรมนี้มีที่จอดรถให้ด้วยค่ะ! จองโรงแรมล่วงหน้าได้ที่แพลตฟอร์ม KKday
2. Nobeoka Daiichi Hotel
โรงแรมระดับ 3 ดาวที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1973 เป็นโรงแรมท้องถิ่นที่เก่าแต่เก๋า สะอาดและมีสิ่งอำนวยตวามสะดวกให้บริการครบครัน จุดเด่นของที่นี่คือทำเลดีมาก โดยตั้งอยู่ใจกลางถนนสายช้อปปิ้งของเมืองโนเบโอกะ ทำให้เราสามารถเดินไปร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อได้แบบง่ายสุดๆ แถมราคาห้องพักยังเป็นมิตรอีกด้วย! ส่วนบริเวณใกล้เคียงกันก็มีที่เที่ยวอย่างศาลเจ้าอิมายะ ฮาจิมังกุ (Imaya Hachimangu Shrine) และ ชายหาดซุมิเอะ (Sumie Beach) เพียงจองง่ายๆผ่าน KKday ก็สามารถเช็กอินและเข้าพักได้เลย!
3. Nobeoka City Hotel
โรงแรมระดับ 3 ดาวอีกแห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเช่นกัน รอบๆมีร้านอาหารอิซากายะและร้านแนวปิ้งย่างให้เลือกรับประทานเพียบ หิวเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ ส่วนภายในโรงแรมก็มีบุฟเฟต์อาหารเช้าให้เติมพลังก่อนออกไปเที่ยวด้วยนะ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าไม่แพ้กันเลยค่ะ คุณสามารถจองที่พักกับ KKday ได้แล้ววันนี้ เพื่อช่วยให้ทริปของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น คลิกจองที่ลิงก์ข้างล่างนี้ได้เลย
แม้ว่า “โนเบโอกะ” (Nobeoka) จะไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่ที่นี่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ชวนค้นหาท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินทางไปเที่ยวหุบเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge) ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายผจญภัย สายธรรมชาติ หรือเพียงต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่… ทุกคนก็สามารถมาพักใจที่โนเบโอกะได้เลย!
ค้นหากิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้อีกมากมายที่ KKday
เดินทางทั่วภูมิภาคคิวชูได้อย่างสะดวก ทั้งฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ คาโกชิม่า และพื้นที่อื่นๆ ด้วยบัตร JR Kyushu Pass ที่ใช้นั่งรถไฟ JR, รถไฟด่วนพิเศษ และชินคันเซ็นทั่วคิวชูได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยมีให้เลือกทั้งแบบ 3/5/7 วัน คุณสามารถประหยัดเวลาต่อคิวซื้อตั๋วที่สถานีได้ เพียงซื้อพาสรถไฟ JR Kyushu ผ่าน KKday ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอราคาที่แสนคุ้มค่า
เดินทางทั่วญี่ปุ่นได้สะดวกสบาย ไม่พลาดทุกการสื่อสาร! ด้วยอีซิมญี่ปุ่น KDDI Unlimited Data Japan eSIM ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5G & 4G พร้อมรองรับการใช้งาน ChatGPT จองอีซิมได้อย่างสะดวกทันทีที่แพลตฟอร์ม KKday
ซื้อ eSIM อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อใช้ในญี่ปุ่นได้ง่ายๆผ่านแพลตฟอร์ม KKday ซิมรุ่นนี้รองรับการติดตั้งทั้งในระบบ iOS และแอนดรอยด์ โดยมีความเร็วให้เลือกทั้ง 1GB, 2GB หรือไม่จำกัดปริมาณ เพียงซื้อซิมและสแกน QR Code เพื่อติดตั้งในมือถือ คุณก็สามารถเล่นเน็ตได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีสะดุด โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรับซิมหรือรอการจัดส่ง
ลิ้มลองอาหารเลิศรสที่ร้าน Bistro Monshushu ของจังหวัดมิยาซากิ ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ชิมไวน์ และเพลิดเพลินกับมื้ออาหารที่เชฟตั้งใจปรุงอย่างดี ร้านนี้มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ 14 ที่นั่งเท่านั้น เพื่อให้ไม่พลาดประสบการณ์รับประทานอาหารสุดประทับใจ สามารถจองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าผ่าน KKday ได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
สำรวจคิวชูด้วย JR Kyushu Rail Pass บัตรรถไฟที่จะพาไปค้นพบเสน่ห์ของชายฝั่งมิยาซากิ
วิธีเดินทางจากโอซาก้าไปเกียวโต อัปเดตปี 2025 เก็บครบทุกแลนด์มาร์ก พร้อมแนะนำที่เที่ยวสุดฮิต